เคล็ดลับที่จะทำให้เราใช้งานวิดีโอในการออกบูธได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
เช็คให้แน่ใจว่าวิดีโอสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ บูธจำนวนมากที่มีปัญหา เกี่ยวกับการสื่อสารของวิดีโอของ พวกเขา ครึ่งหนึ่งของปัญหาที่พบคือ ไม่ได้ยินเสียง หรือเสียงที่ออกมาสื่อสาร ไม่ชัดเจน วิดีโอจึงต้องมีข้อความบรรยาย ประกอบเพื่อให้ผู้เข้าชมบูธสามารถเข้าใจ เนื้อหาได้ จะมีประโยชน์อะไรถ้าเรามีวิดีโอ ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ (และทำมาใน ราคาที่สูง) แต่ไม่สามารถสื่อสารเนื้อหาสำคัญไปยังผู้เข้าชมบูธได้
ตำแหน่งจอก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องให้ความใส่ใจอย่างมาก ไม่ควรตั้งอยู่ในมุมอับ มองได้ไม่ครบทุกมุมมองจากด้านนอก เราจึงควรตั้งในตำแหน่งที่ชัดเจน ให้เกิดเป็นจุดสนใจผู้เข้าชม ที่ผ่านไปผ่านมา ที่สำคัญเราไม่ควรตั้งจอกีดขวางทางเดิน หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ ภายในบูธ เพราะอาจจะไม่สะดวก หรืออึดอัดในการดูวิดีโอได้
การเปิดวิดีโอภายในบูธมีประโยชน์กว่าที่เราคิด จะดีกว่าไหมถ้าเนื้อหาของ วิดีโอมีความความหลากหลายมากกว่าการเปิดสไลด์รูปสินค้าและบริการ ซ้ำไปซ้ำมาอย่างที่หลายๆบูธยังคงทำอยู่ เราสามารถวิดีโอใช้ในการบอกเล่า เรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์เพื่อดึงอารมณ์ร่วมของผู้เข้าชมหรือจะใช้ ในการประกอบทำกิจกรรมต่างๆภายในบูธ เช่น Workshop เป็นต้น
การที่จอแสดงวิดีโอโดดเด่นและมองเห็นได้ ชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี แต่การเลือกขนาดจอที่ เหมาะสมกับบริบทของกิจกรรมสำคัญกว่า เช่น ถ้าวิดีโอแสดงเนื้อหาเพื่อโปรโมทสินค้า และบริการจะสามารถมีขนาดที่ใหญ่เพื่อดึง ความสนใจของผู้เข้าชมงาน แต่ในทางกลับกัน หากใช้จอวิดีโอในมุมของการ Workshop ไม่ควรมีขนาดที่ใหญ่จนเกินไป เพราะจุดสนใจ ควรอยู่ที่ผู้สาธิต ส่วนวิดีโอจะใช้ประกอบเพื่อ ความเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่าในการออกบูธไม่จำเป็นต้องใช้วิดีโอใหม่ทุกครั้งไป แต่การอัพเดตเนื้อหาอยู่เสมอก็เป็นเรื่องที่ควรทำ ไม่เฉพาะ เนื้อหาในส่วนของแบรนด์หรือสินค้าและบริการเท่านั้น แต่รวม ไปถึงการนำเทรนใหม่ๆหรือรูปแบบที่น่าสนใจเข้ามาช่วยใน การนำเสนอวิดีโอด้วย และที่สำคัญต้องไม่ลืมเรื่องคุณภาพ ของวิดีโอ คงดูไม่ดีนักหากจอ LED ที่อยู่ในบูธสุดล้ำของคุณ แสดงวิดีโอคุณภาพต่ำเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ขอบคุณข้อมูล www.herdmarkmedia.com
Digital Out-of-Home คือ “เครื่องมือทรงพลัง” สำหรับนักการตลาดยุคใหม่ที่ต้องการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness) เพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) และกระตุ้นยอดขาย (Conversion)
Shop in Shop คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ที่มีการจับจ่ายสูง โดยไม่ต้องลงทุนสูงในการสร้างร้านค้าใหม่ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการโปรโมทแบรนด์ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
ปี 2025 เป็นยุคที่การออกแบบกราฟิกไม่ได้หยุดอยู่ที่ความสวยงาม แต่เป็นการเล่าเรื่อง สร้างอารมณ์ และ สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจและเลือกเทรนด์ที่เหมาะสมกับแบรนด์จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น และเข้าถึงใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง